หลักสูตรเกี่ยวกับคำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ - เตรียมสอบ TOEIC®

คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ (Relative Pronouns) ใช้เพื่อ เชื่อมสองประโยค ให้ เป็นประโยคที่มีเนื้อหาสมบูรณ์และชัดเจนมากขึ้น ช่วย หลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำซ้อน และนำเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์ ในภาษาไทย คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ที่คล้ายกันได้แก่ "ที่", “ซึ่ง”, “ของซึ่ง”, ฯลฯ
ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์ (relative clause) คือส่วนหนึ่งของประโยคที่ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำนาม โดยที่ ไม่สามารถอยู่เดี่ยวๆ ได้ เพราะขึ้นอยู่กับ ประโยคหลัก
- The boy who is wearing a red shirt is my brother.
- “the boy” คือ ประโยคหลัก (Main Clause)
- “Who is wearing a red shirt” คือ ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์ ซึ่งให้ข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับ “the boy”
ในภาษาอังกฤษ คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ ที่ใช้บ่อยที่สุด ได้แก่
- Who / Whom
- Which
- That
- Whose
บางครั้งยังรวม Where, When และ Why ด้วย เพราะมีหน้าที่คล้ายกันในการเชื่อมสองส่วนของประโยค
1. ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบจำกัดและไม่จำกัด (Restrictive & Non-Restrictive Clauses)
ในภาษาอังกฤษ ตำแหน่ง และ เครื่องหมายวรรคตอน ของ ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์ มีความ สำคัญมาก โดยแบ่งออกเป็น:
- ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบจำกัด (Restrictive Clauses)
- ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบไม่จำกัด (Non-Restrictive Clauses)
A. ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบจำกัด (Restrictive Clauses)
ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบจำกัด คือส่วนของประโยคที่ ให้ข้อมูลสำคัญ หากขาดไปจะทำให้ประโยค ขาดความหมายหรือคลุมเครือ
ตัวอย่างเช่น
- The book that I borrowed is fascinating.
ที่นี่ “that I borrowed” จำเป็นอย่างยิ่งเพื่อระบุว่า พูดถึงหนังสือเล่มไหน ไม่สามารถพูดแค่ The book is fascinating เพราะอาจหมายถึงหนังสือเล่มใดก็ได้
ลักษณะเฉพาะของ ประโยคย่อยแบบจำกัด คือ ไม่คั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค (,) เพราะเป็นส่วนสำคัญของประโยค
เช่นเดียวกับประโยคนี้:
- The man who lives next door is a doctor.
ข้อมูล “who lives next door” ทำให้เรารู้ แน่นอนว่าเป็นชายคนไหน ถ้าตัดออกจะเหลือแค่ “The man is a doctor” ซึ่ง ยังไม่บอกว่าเป็นใคร
B. ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบไม่จำกัด (Non-Restrictive Clauses)
ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบไม่จำกัด ให้ ข้อมูลเพิ่มเติม ที่ ไม่จำเป็นต่อความเข้าใจหลักของประโยค เป็นเพียง รายละเอียดเสริม จึง ต้องคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาค (,) เสมอ
ตัวอย่างเช่น:
- This book, which I borrowed last week, is fascinating.
ข้อมูล “which I borrowed last week” น่าสนใจ แต่ ไม่จำเป็น หากตัดส่วนนี้ออก This book is fascinating ก็ยังเข้าใจได้
การใช้จุลภาคแสดงให้เห็นว่าข้อมูลนี้เป็น ข้อมูลรอง
ประโยคตัวอย่างอีกอัน:
- My neighbor, who is a doctor, helped me yesterday.
เรารู้แล้วว่า พูดถึงใคร คือ "my neighbor" ส่วนที่เป็นหมอเป็นแค่ รายละเอียดเพิ่มเติม ประโยคยังคงสื่อความหมายได้หากตัดออก
2. คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์หลัก: Who, Which, That, Whose
A. Who (และ Whom)
Who ใช้กับ บุคคล (ทั้งคนเดียวหรือหลายคน)
- The man who lives next door is a doctor.
(ผู้ชายที่อยู่ข้างบ้านเป็นหมอ) - She's the teacher who helped me improve my pronunciation.
(เธอคือครูที่ช่วยฉันพัฒนาเรื่องการออกเสียง)
B. Whom
เช่นเดียวกับ who, whom ก็ใช้กับ บุคคล แต่การใช้จะ เป็นทางการและพบได้น้อยกว่า มักปรากฏ หลัง preposition หรือใน บริบททางการ
- The person whom I met yesterday was very kind.
(คนที่ฉันพบเมื่อวานนี้ใจดีมาก) - He is the colleague with whom I worked on the project.
(เขาคือเพื่อนร่วมงานที่ฉันได้ทำโปรเจ็กต์ด้วย) - The teacher whom I respect the most is Mr. Green.
(ครูที่ฉันเคารพมากที่สุดคือคุณกรีน)
ปัจจุบันผู้พูดภาษาอังกฤษจำนวนมาก แทนที่ whom ด้วย who โดยเฉพาะในการพูด แต่ whom ยังถือว่า ถูกต้องกว่า ในภาษาเขียนหรือสถานการณ์ทางการ
C. Which
Which ใช้กับ สิ่งของ, สัตว์, หรือ แนวคิด เพื่อแนะนำ ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์ ที่บอกข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สิ่งที่ไม่ใช่คน
- The book which I borrowed from you is fascinating.
(หนังสือที่ฉันยืมจากคุณน่าสนใจมาก) - This is the car which won the race.
(นี่คือรถที่ชนะการแข่งขัน) - He showed me the painting which he had bought at the auction.
(เขาแสดงภาพวาดที่เขาซื้อในงานประมูลให้ฉันดู)
D. That
That เป็น คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ ที่สามารถใช้แทน who (สำหรับคน) หรือ which (สำหรับสิ่งของ/สัตว์) นิยมใช้ใน ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบจำกัด
- The woman that called me yesterday is my aunt.
(ผู้หญิงที่โทรหาฉันเมื่อวานคือป้าของฉัน) - The movie that I watched last night was really good.
(หนังที่ฉันดูเมื่อคืนดีมาก) - I really love the music that you played at the party.
(ฉันชอบเพลงที่เธอเปิดในงานปาร์ตี้มาก)
บางครั้งสามารถ ละคำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ เช่น that, who, หรือ which ได้ในบางกรณีที่เรียกว่า การละ (omission)
- The book I read was interesting.
(แทนที่จะเป็น The book that I read was interesting.)
That หรือ Which ดี?
ในภาษาอังกฤษ การเลือกใช้ that หรือ which มักขึ้นกับ ประเภทของประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์
- That นิยมใช้ใน ประโยคย่อยแบบจำกัด
- The car that I bought is red → ข้อมูลนี้จำเป็นต่อการระบุว่าพูดถึงรถคันไหน
- Which ใช้บ่อยใน ประโยคย่อยแบบไม่จำกัด
- My car, which is red, needs washing → ข้อมูลเรื่องสีเป็นเพียงข้อมูลเสริม
จะต้องใช้ that หลัง everything, anything, nothing, all
หลังคำเหล่านี้ จำเป็นต้องใช้คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ that ห้ามละหรือแทนด้วย which หรือ who
- Everything that you said was true.
(ทุกอย่างที่คุณพูดเป็นความจริง) - There's nothing that we can do about it.
(ไม่มีอะไรที่เราจะทำได้เกี่ยวกับเรื่องนี้) - All that matters is your happiness.
(สิ่งสำคัญทั้งหมดคือความสุขของคุณ)
E. Whose
Whose เป็นคำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ที่แสดงความ เป็นเจ้าของ เทียบได้กับ “ของซึ่ง”, “ที่เป็นของ” ในภาษาไทย
- I met a girl whose brother is a famous actor.
(ฉันพบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งน้องชายของเธอเป็นนักแสดงชื่อดัง) - He's the writer whose books you love.
(เขาคือคนเขียนหนังสือที่คุณชอบ) - The company whose employees went on strike is now negotiating.
(บริษัทที่พนักงานประท้วงกำลังเจรจา)
F. Whatever, Whoever, Whichever, Wherever, Whenever
คำสรรพนามเหล่านี้แสดง ความไม่เจาะจงหรือความทั่วไป
- Whatever (อะไรก็ได้)
- Do whatever you want.
(ทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการ)
- Do whatever you want.
- Whoever (ใครก็ได้)
- Whoever wins will get a prize.
(ใครก็ตามที่ชนะจะได้รับรางวัล)
- Whoever wins will get a prize.
- Whichever (อันไหนก็ได้)
- Take whichever you prefer.
(เลือกอันที่คุณชอบที่สุด)
- Take whichever you prefer.
- Wherever (ที่ไหนก็ได้)
- Go wherever you like.
(ไปที่ไหนก็ได้ที่คุณต้องการ)
- Go wherever you like.
- Whenever (เมื่อไหร่ก็ได้)
- Call me whenever you need.
(โทรหาฉันเมื่อไหร่ก็ได้ที่คุณต้องการ)
- Call me whenever you need.
G. สำนวนที่ใช้ร่วมกับคำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์
บางคำกริยาและสำนวน ต้องมี Preposition นำหน้าคำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ กรณีนี้ใช้ whom (สำหรับคน) หรือ which (สำหรับสิ่งของ/สัตว์)
- To + whom/which : (ที่กับใคร / ที่กับอะไร)
- The professor to whom I spoke was very helpful.
(อาจารย์ที่ฉันพูดคุยด้วยมีความช่วยเหลือมาก) - This is the solution to which I was referring.
(นี่คือวิธีแก้ไขที่ฉันอ้างถึง)
- The professor to whom I spoke was very helpful.
- With + whom/which : (กับใคร / กับอะไร)
- She's the colleague with whom I work.
(เธอคือเพื่อนร่วมงานที่ฉันทำงานด้วย) - The method with which we succeeded was innovative.
(วิธีที่เราประสบความสำเร็จนั้นเป็นนวัตกรรมใหม่)
- She's the colleague with whom I work.
- Without + whom/which : (ขาดใคร / ขาดอะไร)
- He is a friend without whom I wouldn't have made it.
(เขาคือเพื่อนที่ถ้าไม่มีเขาฉันคงไม่สำเร็จ) - The tool without which we cannot work is missing.
(เครื่องมือที่ขาดไปจะทำงานไม่ได้)
- He is a friend without whom I wouldn't have made it.
- By + whom/which : (โดยใคร / โดยอะไร)
- The method by which we solved the problem was innovative.
(วิธีที่เราแก้ปัญหานั้นเป็นนวัตกรรม) - The process by which this wine is made is centuries old.
(กระบวนการผลิตไวน์นี้มีอายุนับศตวรรษ)
- The method by which we solved the problem was innovative.
- From + whom/which : (จากใคร / จากอะไร)
- The teacher from whom I learned the most is retired.
(ครูที่ฉันได้เรียนรู้มากที่สุดได้เกษียณแล้ว) - The country from which this tradition originates is unknown.
(ประเทศที่มีธรรมเนียมนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด)
- The teacher from whom I learned the most is retired.
- About + whom/which : (เกี่ยวกับใคร / เกี่ยวกับอะไร)
- The author about whom we talked is famous.
(ผู้เขียนที่เราพูดถึงนั้นมีชื่อเสียง) - The theory about which we are learning is complex.
(ทฤษฎีที่เราเรียนรู้ค่อนข้างซับซ้อน)
- The author about whom we talked is famous.
- On + which : (บนอะไร)
- The topic on which he wrote is fascinating.
(หัวข้อที่เขาเขียนน่าสนใจมาก) - The table on which I placed my book is broken.
(โต๊ะที่ฉันวางหนังสือพังแล้ว)
- The topic on which he wrote is fascinating.
- None / all / some / neither / a few ... + of who / of which : (บางคน บางอัน ฯลฯ)
- The students, some of which had already graduated, attended the ceremony.
(นักเรียนซึ่งบางคนได้จบการศึกษาแล้วเข้าร่วมพิธี) - The books, none of which I had read before, were very interesting.
(หนังสือที่ฉันยังไม่เคยอ่านเลยก่อนหน้านี้น่าสนใจมาก)
- The students, some of which had already graduated, attended the ceremony.
ในการพูดหรือภาษาอังกฤษทั่วไป preposition (คำบุพบท) มักจะ ถูกย้ายไปไว้ท้ายประโยค และ whom ก็มักถูกแทนที่ด้วย who เช่น:
- The professor I spoke to was very helpful. = The professor to whom I spoke was very helpful.
- The colleague I work with is very kind. = The colleague with whom I work is very kind.
3. คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์รอง: Where, When, Why
แม้จะถูกจัดว่าเป็น Adverb (กริยาวิเศษณ์) เชื่อมสัมพันธ์ มากกว่าคำสรรพนาม แต่ where, when และ why ก็มีบทบาทคล้ายกับคำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ โดยใช้กับ สถานที่, เวลา, หรือ เหตุผล
A. Where
Where ใช้เมื่อ พูดถึงสถานที่ (อาจเป็นสถานที่จริงหรือเป็นนามธรรม)
- I love the city where I grew up.
(ฉันรักเมืองที่ฉันเติบโตขึ้นมา) - This is the house where we spent our vacation.
(นี่คือบ้านที่เราใช้พักผ่อนช่วงวันหยุด)
B. When
When ใช้เมื่อพูดถึง ช่วงเวลา หรือ ระยะเวลา
- There was a time when people wrote letters instead of emails.
(มีช่วงเวลาที่ผู้คนเขียนจดหมายแทนการส่งอีเมล) - I remember the day when we first met.
(ฉันจำวันแรกที่เราเจอกันได้)
C. Why
Why ใช้ในการแนะนำ เหตุผล หรือ สาเหตุ
- Do you know the reason why he left so suddenly?
(คุณรู้เหตุผลที่เขาจากไปอย่างกะทันหันไหม) - That’s why I decided to travel alone.
(นั่นคือเหตุผลที่ฉันตัดสินใจเดินทางคนเดียว)
สรุป
คำสรรพนามเชื่อมสัมพันธ์ มีความสำคัญในการ เชื่อมโยงความคิด และ สร้างประโยคที่มีรายละเอียดและเป็นธรรมชาติ ช่วย ป้องกันการใช้คำซ้ำๆ และเพิ่มข้อมูลโดยไม่ทำให้ประโยคยุ่งเหยิง การรู้จักแยกแยะ ประโยคย่อยเชื่อมสัมพันธ์แบบจำกัด และ ไม่จำกัด จะช่วยจัดโครงสร้างประโยคให้ชัดเจนและสื่อสารได้ตรงความต้องการมากขึ้น