TOP-Students™ logo

คอร์สเรื่อง Modal สำหรับพูดถึงความตั้งใจหรืออนาคตอันใกล้ - เตรียมสอบ TOEIC®

ครูจาก top-students.com กำลังอธิบายเรื่องความตั้งใจในอนาคตภาษาอังกฤษบนกระดานดำด้วยชอล์ก คอร์สนี้เป็นคอร์สเฉพาะทาง TOEIC® ออกแบบมาเพื่อความเป็นเลิศในการสอบ TOEIC®

ในการสอบ TOEIC® สิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจ modal เพื่อใช้ พูดถึงความตั้งใจหรืออนาคตอันใกล้ คอร์สนี้จะเน้นที่ modal auxiliary will, โครงสร้าง be going to รวมถึงรูปแบบอื่นที่พบน้อยกว่า (เช่น shall หรือ be about to) เราจะดูว่า แต่ละรูปแบบใช้ในบริบทใด, สร้างประโยคอย่างไร และ ความหมายต่างๆ ที่แต่ละรูปแบบสื่อออกมา

1. "Will" สำหรับแสดงอนาคตธรรมดาและความตั้งใจแบบฉับพลัน

Will มักถูกมองว่าเป็น modal auxiliary พื้นฐานในการ แสดงอนาคต อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ใช้แค่เพื่อแสดง อนาคตทั่วไปเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อแสดง ความตั้งใจ, สัญญา, การตัดสินใจทันที หรือการทำนายเหตุการณ์ อีกด้วย

A. “Will” สำหรับการตัดสินใจฉับพลัน

Will ใช้เมื่อเราต้องการแสดง การตัดสินใจที่เกิดขึ้นทันทีโดยปราศจากการวางแผนมาก่อน เป็น การตอบสนองต่อสถานการณ์หรือความต้องการทันที Modal นี้แสดงว่าผู้พูด กระทำโดยฉับพลันตามสถานการณ์

B. “Will” สำหรับการให้ข้อเสนอหรือสัญญา

ด้วย will คุณสามารถ เสนอตัวช่วย, ให้คำสัญญา หรือ ให้ความมั่นใจ โครงสร้างนี้แสดงถึง ความตั้งใจที่ชัดเจนและ ความมุ่งมั่นที่เชื่อถือได้ มักใช้เพื่อแสดง ความพร้อมที่จะลงมือทำหรือสนับสนุนผู้อื่น

C. “Will” สำหรับพูดถึงอนาคต “ทั่วไป” หรือกลางๆ

Will ยังถูกใช้ในการอธิบาย เหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่มีบริบทเฉพาะเจาะจง หรือ ไม่มีหลักฐานชัดเจน มักใช้สำหรับ การทำนายทั่วไป หรือ สิ่งที่เรามองว่าเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้

2. “Be going to” สำหรับความตั้งใจที่วางแผนไว้และอนาคตอันใกล้

โครงสร้าง be going to เป็นที่ใช้บ่อยมากและ แม่นยำกว่า will ในการพูดถึง ความตั้งใจที่กำหนดไว้แล้ว หรือ เหตุการณ์ในอนาคตที่มีความเป็นไปได้สูง ประกอบด้วย verb to be (ผันตามประธาน) ตามด้วย going to และ verb รูป base form

A. “Be going to” สำหรับโครงการหรือความตั้งใจที่กำหนดไว้แล้ว

ใช้ be going to เมื่อ การตัดสินใจหรือความตั้งใจเกิดขึ้นก่อนเวลาพูด เป็น การกระทำที่คิดไว้หรือวางแผนไว้ มักมี บริบทประกอบชัดเจน ต่างจาก will ที่แสดงการตัดสินใจฉับพลัน รูปนี้แสดงว่า ผู้พูดได้คิดและตัดสินใจไว้แล้ว

B. “Be going to” สำหรับการทำนายโดยมีหลักฐาน

ใช้ be going to เพื่อทำ การทำนายที่มีหลักฐานสังเกตได้ในปัจจุบัน เหมาะสำหรับเมื่อ เรามีหลักฐานหรือข้อมูลเชื่อถือได้ หรือ สถานการณ์ปัจจุบันที่บ่งชี้

C. “Will” และ “Be going to” เลือกใช้อะไรดี?

เมื่อใดควรใช้ “Will”?

เมื่อใดควรใช้ “Be going to”?

3. “Shall” สำหรับแสดงอนาคตโดยความตั้งใจ (โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ)

Shall เป็น modal ที่พบได้น้อยในภาษาอังกฤษปัจจุบัน (โดยเฉพาะอเมริกัน) แต่ยังใช้ในบางรูปแบบ โดยเฉพาะ บุรุษที่หนึ่งเอกพจน์ (I) หรือ พหูพจน์ (we) อาจพบใน บริบททางการ (เช่น กฎหมาย) เพื่อแสดง ภาระหน้าที่หรือความแน่นอนเกี่ยวกับอนาคต

A. “Shall” สำหรับให้ข้อเสนอ แนะนำ หรือเชิญชวน

ในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ shall ใช้เพื่อ เสนอสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือขอข้อเสนอแนะ นิยมในประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วยบุรุษที่หนึ่งเอกพจน์หรือพหูพจน์

การใช้ shall แบบนี้พบได้น้อยในภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน โดยมักใช้ should หรือ will แทน ตัวอย่างเช่น คนอเมริกันจะพูด:

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม วิธีใช้ shall สำหรับข้อเสนอแนะในคอร์สนี้

B. “Shall” ในบริบททางการหรือกฎหมาย

ใน เอกสารกฎหมาย, สัญญา หรือข้อความทางการ shall ใช้เพื่อแสดง ข้อผูกพันหรือการกระทำที่ต้องทำ เป็นการแสดง ความแน่นอนหรือข้อกำหนด ที่ระบุไว้ชัดเจน การใช้งานนี้มีความแข็งแรงและเป็นมาตรฐาน จึงพบได้บ่อยในบริบทนี้

4. “Be about to” สำหรับพูดถึงการกระทำที่กำลังจะเกิดขึ้นทันที

รูปแบบ “be about to + base verb” มีประโยชน์มากสำหรับอธิบาย การกระทำที่ใกล้จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หรือแทบจะเกิดขึ้นทันที ใช้เมื่อ สิ่งใดสิ่งหนึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีหรือไม่กี่นาที

5. “Be to” สำหรับพูดถึงเหตุการณ์ที่ถูกกำหนดหรือวางแผนไว้

โครงสร้าง “be to + base verb” ใช้บ่อยใน บริบททางการ หรือ สื่อมวลชน เพื่อแสดงว่า เหตุการณ์ได้รับการวางแผนหรือถูกสั่งให้เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

6. การใช้ verb แสดงการวางแผนหรือความตั้งใจ

แม้ verb เหล่านี้จะ ไม่ใช่ modal auxiliary โดยตรง แต่พบได้บ่อยในการ แสดงความตั้งใจหรือการทำสิ่งใดในอนาคต verb เหล่านี้ตามด้วย infinitive และมักจะอยู่ใน ประโยค Present เพื่อพูดถึงอนาคตที่วางแผนไว้

ที่พบได้บ่อย ได้แก่

สรุป

เพื่อ ประสบความสำเร็จในการสอบ TOEIC® คุณควรเข้าใจ รายละเอียดปลีกย่อย ของแต่ละวิธี การแสดงอนาคตหรือความตั้งใจ สองรูปแบบหลักที่ต้องเชี่ยวชาญคือ will และ be going to เพราะทั้งคู่ พบได้บ่อยในภาษาอังกฤษทั้งการพูดและการเขียน

รูปแบบอื่นเช่น shall, be about to หรือ be to อาจเจอใน บริบทเฉพาะ (แบบอังกฤษ, สถานการณ์ทางการ หรือภาษาเขียนที่เป็นทางการ) สุดท้าย การใช้ verb อย่าง plan, intend หรือ expect จะช่วยแสดง ความตั้งใจ ได้อย่างชัดเจน พร้อมคงความตรงไปตรงมา

สรุป Modal ที่ใช้แสดงความตั้งใจหรืออนาคตอันใกล้

Modal / Structureบริบทตัวอย่าง
Willการตัดสินใจฉับพลัน, สัญญา, การทำนายทั่วไปI’ll help you.
(ฉันจะช่วยคุณ)

It will rain tomorrow.
(พรุ่งนี้ฝนจะตก)
Be going toการกระทำที่วางแผนไว้, เหตุการณ์ที่อ้างอิงจากหลักฐานหรือสถานการณ์ปัจจุบันI’m going to visit London.
(ฉันจะไปเยือนลอนดอน)

Look, it’s going to rain.
(ดูสิ ฝนกำลังจะตก)
Shallบริบททางการ, ข้อเสนอหรือคำแนะนำ (โดยเฉพาะในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ)Shall we go to the cinema?
(เราจะไปดูหนังไหม?)

The tenant shall pay the rent.
(ผู้เช่าต้องจ่ายค่าเช่า)
Be about toการกระทำที่ใกล้จะเกิดขึ้นหรือเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้าI am about to leave.
(ฉันกำลังจะออกไป)

Are you about to start?
(คุณกำลังจะเริ่มหรือเปล่า?)
Be toเหตุการณ์ที่กำหนดไว้หรือเป็นทางการ (มักใช้ในบริบททางการหรือสื่อมวลชน)The president is to visit the capital.
(ประธานาธิบดีจะไปเยือนเมืองหลวง)

They are to be married in June.
(พวกเขาจะเข้าพิธีแต่งงานในเดือนมิถุนายน)
Verbs of intentionแสดงความตั้งใจหรือแผนด้วย verb เช่น plan, intend, expectI plan to take the TOEIC® exam.
(ฉันวางแผนจะสอบ TOEIC®)

She intends to apply for a job abroad.
(เธอตั้งใจจะสมัครงานต่างประเทศ)

ข้อควรจำเกี่ยวกับ Modal ที่แสดงความตั้งใจหรืออนาคตอันใกล้

  1. ความแตกต่างระหว่าง “Will” และ “Be going to”: อย่าสับสนระหว่าง การทำนายทั่วไป (It will rain tomorrow.) กับ การทำนายที่มีหลักฐานชัดเจน (It’s going to rain.)
    • Will ใช้สำหรับ การตัดสินใจฉับพลัน, สัญญา, และ การทำนายทั่วไป ที่ไม่มีหลักฐานทันที
      • I’ll call you later.
        (ฉันจะโทรหาคุณทีหลัง) → การตัดสินใจฉับพลัน
    • Be going to แสดง ความตั้งใจที่คิดไว้ หรือ การทำนายจากหลักฐาน
      • Look at the clouds. It’s going to rain.
        (ดูเมฆสิ ฝนกำลังจะตก)
  2. ความหมายของ “Shall”: หลีกเลี่ยงการใช้ “shall” ใน บริบทไม่เป็นทางการหรือในชีวิตประจำวัน
    • ในภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ shall มักใช้ในการ เสนอข้อแนะนำหรือเชิญชวน (Shall we go?)
    • ในภาษาอังกฤษกฎหมาย shall หมายถึง ข้อบังคับหรือระเบียบที่เข้มงวด แต่ไม่ค่อยใช้ในภาษาอังกฤษทั่วไป
    • ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน: จะใช้ should หรือ will แทนในกรณีส่วนใหญ่
  3. “Be about to” กับ “Be going to”: อย่าใช้ be about to เมื่อพูดถึงอนาคตที่ห่างไกล
    • Be about to ใช้เมื่อการกระทำ กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ หรือ แทบจะทันที
      • I’m about to leave.
        (ฉันกำลังจะออกไป)
    • Be going to ครอบคลุม ระยะเวลานานกว่า เหมาะกับ แผนงานหรือการทำนาย
      • I’m going to leave next week.
        (ฉันจะออกไปสัปดาห์หน้า)
  4. “Be to”: ความเป็นทางการและการวางแผนที่ชัดเจน
    • Be to ใช้ใน บริบททางการหรือข้อความเป็นทางการ (เช่น สื่อ, สัญญา)
      • The president is to visit the capital next week.
        (ประธานาธิบดีจะไปเยือนเมืองหลวงสัปดาห์หน้า)
    • โครงสร้างนี้ไม่ค่อยใช้ใน การพูดทั่วไป อาจดู แข็งเกินไปในบทสนทนา
  5. ดูหลักฐานเพื่อเลือก “Will” หรือ “Be going to”:
    • ถ้ามี หลักฐานหรือสิ่งบ่งชี้ที่เห็นได้ชัดเจน ให้ใช้ be going to
      • Look at that car! It’s going to crash.
        (ดูรถคันนั้นสิ! มันกำลังจะชน)
    • ถ้า ไม่มีหลักฐาน และเป็น การทำนายทั่วไป ให้ใช้ will
      • The stock market will recover soon.
        (ตลาดหุ้นจะฟื้นตัวในเร็วๆ นี้)
  6. Verb แสดงความตั้งใจ: ระวังเรื่องเวลา
    • Verb เช่น plan, intend, หรือ expect ไม่ใช่ modal แต่การใช้ใน Present หรือ Future จะเพิ่มความแม่นยำ
    • I plan to take the TOEIC®.
      (ฉันวางแผนจะสอบ TOEIC®) → แสดงความตั้งใจชัดเจน
    • มัก นิยมใช้ในบริบททางการหรือภาษาเขียน
    • Verb เหล่านี้ ไม่ใช้ร่วมกับ modal (I will plan to... ไม่ถูกต้อง)

คอร์สอื่นเกี่ยวกับ Modal

หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Modal สามารถอ่านคอร์สอื่นๆ ได้ดังนี้:

สอบผ่าน TOEIC® !
TOEIC® คือ เรื่องของการฝึกฝน!
เพื่อ ช่วยเหลือ ให้คุณ สอบผ่าน TOEIC® เราขอแนะนำ แพลตฟอร์มฝึกฝนของเรา, สมัครเลยเพื่อเป็น ผู้เชี่ยวชาญ !
สมัครบน